G-Pen ตอนที่1 - มารู้จักG-penกันดีกว่า

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนด้วยนะครับที่เข้ามาเยี่ยมชมART SUPPLIES ในเว็บManga course partyของเรา

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า...นี่เป็นบทความแรกของหมวดนี้ และมันก็ยากมิใช่น้อยกับการที่ต้องมาคิดว่าอะไรดีน๊อ ที่น่าจะนำมาใช้เป็นบทความบทแรก
สำหรับหมวดหมู่ที่จะรวบรวมหรือแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในงานการ์ตูนนี้ได้....

ว่าแล้วเหลือบไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง อันเป็นโต๊ะที่ใช้สำหรับเขียนต้นฉบับงานส่งสำนักพิมพ์อยู่เป็นประจำ สิ่งแรกที่โดดเด่นขึ้นมามากกว่าใครเพื่อนเลย
ในมุมมองของนักเขียนการ์ตูนอาชีพอย่าผมคือ....




ใช่แล้วครับ อุปกรณ์ตัดเส้นคู่ใจสำหรับนักวาดหรือนักเขียนหลายๆคน เรียกได้ว่าแทบจะเป็น Symbolic ของอาชีพนักเขียนอย่างพวกเราเลยก็ว่าได้เลยเนอะ

"G-pen"




g-pen สำหรับเหล่านักเขียนการ์ตูนแล้ว ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับงานลงหมึกอันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากๆในประเทศญี่ปุ่น และทั้งในบ้านเราเองด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำงานบนผืนกระดาษ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่ให้เส้นที่คมชัด สามารถเล่นน้ำหนักเส้นได้หลากหลายไม่รู้จบภาพในหัวปากกาเพียงอันเดียว
ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าg-penนี้จะกลายเป็นที่นิยมหรือเป็นที่ต้องการของเหล่านักวาดมืออาชีพ รวมถึงมือสมัครหลายๆคนเล่นที่วาดเพื่อความสนุกสนาน

g-pen นั้นเป็นdip penชนิดหนึ่ง (หัวปากกาที่ต้องจุ่มหมึกก่อนใช้งาน) ทำมาจากโลหะที่ใช้แม่พิมพ์กดปั้มลงไปในแผ่นเหล็กขนาดใหญ่
ก่อนที่จะทำการดัดหรือขึ้นรูปจนออกมาเป็นหัวปากกาอย่างที่เห็น การใช้งานนั้นต้องใช้ควบคู่กับตัวด้ามปากกาที่ทำมาสำหรับใช้กับ
หัวปากกาตระกูลdip penโดยเฉพาะ และใช้คู่กับหมึกประเภทต่างๆด้วยการจุ่มและเขียน ดั่งเช่นพวกหัวปากกาคอแร้งสมัยโบราณที่เราเคยเห็นตามหนังย้อนยุคต่างๆ
และมีส่วนประกอบหลักๆอยู่ด้วยกัน3ส่วน ได้แก่ส่วนหัว, ส่วนของโลโก้, และส่วนท้ายปากกา


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

แต่ละส่วนของหัวปากกานั้นต่างมีหน้าที่ของมันอยู่อย่างเข้าใจได้โดยง่าย ดังนี้ครับ

- ส่วนที่1  - ส่วนหัว คือตั้งแต่ช่วงปลายปากกาแหลมๆ ไล่มาจนถึง"รู" ที่อยู่ติดกับส่วนโลโก้รูปตัวG เป็นส่วนที่เราใช้จุ่มน้ำหมึกลงไป ให้หมึกติดหรือยึดเกาะอยู่กับผิวด้านๆ
ที่อยู่ระหว่างปลายหัวกับรู เพื่อทำให้เราได้ใช้งานสะดวกและไม่ต้องจุ่มหมึกเขียนอยู่บ่อยๆ และจากปลายแหลมของหัวปากกา จะมีการตัดเหล็กผ่าหัวจากปลายสุด
มายังรูตรงกลางหัวปากกา ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นระหว่างการใช้งาน เป็นส่วนที่ช่วยสร้างน้ำหนักเส้นที่เราวาดตามน้ำหนักมือของเรานั่นเองครับ

- ส่วนที่2  - ส่วนโลโก้ อันเป็นเอกลักษณ์ของg-pen ที่จะปั้มรูปตัว "G" ลงไปเด่นหราเป็นสง่าในทุกๆหัว ซึ่งเจ้าตัว "G" นี้เอง แท้จริงแล้วคือ"เบอร์"ของหัวปากกา เนื่องจาก
หัวปากการในตระกูลของdip penนั้นต่างก็มีหลากหลายชนิด หลากหลายประเภท และทุกชนิดทุกประเภทก็จะมีหมายเลขเบอร์บอกเอาไว้เพื่อเอาไว้แยกแยะเวลา
ใช้งาน เบอร์Gเองก็เช่นกัน ทำให้เราเรียกกันติดปากแบบง่ายๆเรื่อยมาว่า "g-pen" นั่นเอง
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของสัญลักษณ์โลโก้รูปตัวGนี้คือ คอยเตือนระวังให้ให้ผู้ใช้งาน จุ่มหมึกมากจนเกินไป และไม่ควรจุ่มหมึกเกินขึ้นมาถึงโลโก้ตัวGนั่นเอง

- ส่วนที่3  - ส่วนท้ายปากกา เป็นส่วนที่ทำการปั้มพิมพ์ชื่อยี่ห้อง บริษัทผู้ผลิต รวมเป็นno.หมายเลขชนิดของหัวปากกาลงไป เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่แจ้งให้
ผู้ใช้ได้ทราบ เหมือนเช่นผลิตภัณฑ์โดยทั่วๆไป อีกทั้งส่วนท้ายปากกานี้ ยังเป็นส่วนที่เราใช้ต่อ หรือเสียบเข้ากับ"ด้ามปากกา" ที่เราต้องทำการซื้อแยกมาต่างหาก
ซึ่งถ้าไม่มีเจ้าด้ามปากกาที่ว่านี้ เราก็คงจะไม่สามารถใช้เจ้าหัวg-penนี่ได้อย่างแน่นอนครับ
และก่อนจะพูดถึงด้ามปากกา เรามารู้กันก่อนดีกว่า ว่าส่วนท้านปากกาที่ระบุถึงบริษัทผู้ผลิตเนี่ย มันมีบริษัทอะไรกันบ้างน๊า...ที่ผลิตเจ้าg-penออกมาให้เราได้ใช้งานกัน

3บริษัทหลักๆ ที่ผลิตg-penออกมาให้เราได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีดังนี้ครับ

Zebra



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

g-pen ของzebraนั้น แลจะเป็นที่นิยมที่สุดในหมู่ผู้ใช้ เนื่องมาจากคุณสมบัติของg-penยี่ห้อนี้ อยู่ที่ความแข็งแกร่งทนทานของเนื้อเหล็กที่ใช้ผลิตหัวปากกา ทำให้มีอายุ
การใช้งานที่ยาวนานกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย แต่นั่นก็ทำให้ปากหัวของzebraนั้นมีความคมแข็งเช่นเดียวกัน จึงทำให้เส้นที่ได้จากหัวปากกายี่ห้อนี้ มีความคม เรียวเล็ก
และต้องอาศัยน้ำหนักมือหรือแรงกดมากกว่ายี่ห้ออื่นเพื่อเล่นน้ำหนักเส้น แต่นั่นก็เท่ากับว่าเราสามารถเล่นหนักหลักเส้นกับหัวปากกาได้หลายกหลายมากด้วยเช่นกัน

Nikko


 
(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

nikkoเองก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ผลิตg-penออกมาตีตลาด ด้วยรูปทรงที่ดูมนๆอ่อนช้อยกว่าของzebra แต่มีความแข็งแรงไม่แพ้กัน อีกทั้งnikkoยังเลือกที่จะลดความแข็ง
ของหัวปากกาลง ให้มีความนิ่มหรือยืดหยุ่นน่าใช้กว่าของทางzebra จึงเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่น่าใช้งาน สำหรบคนที่ต้องการเล่นน้ำหนักเส้นอย่างหลากหลาย แต่ไม่อยาก
จะใช้แรงกดที่มากเท่าของzebraครับ

Tachikawa



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

tachikawa เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผลิตเครื่องเขียนออกมาอย่างมากมายครับ โดยส่วนใหญ่ก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดการ์ตูนแทบทั้งนั้น g-penเองก็เช่นกัน ที่เป็นหนึ่ง
ในหัวปากกาประเภทdip penที่tachikawaผลิตออกมาตีตลาดด้วยราคาที่ย่อมเยากว่าสองยี่ห้อข้างบน และหาซื้อได้ง่ายกว่า
ทว่าg-penของtachikawaนั้น มีความทนทานที่ต่ำที่สุดถ้าเทียบกับ2ยี่ห้อข้างต้นด้วยเช่นกัน เนื้อเหล็กที่นิ่มกว่า ทำให้หัวปากกายี่ห้อนี่อาจจะเล่นน้ำหนักเส้นได้ไม่หลาก
หลายเท่าที่เราต้องการสักเท่าไหร่นัก แต่นั่นก็ถึงว่าเป็นข้อดีในตัวของมันเองด้วยเช่นกันครับ ทำให้เราไม่ต้องออกแรงกดอะไรมากมายในการใช้งาน ซึ่งเหมาะกับคน
ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำหนักเส้นหนาๆเป็นที่สุด

และนั่นก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ รวมถึงข้อแตกต่างที่ชัดเจนของหัวปากกาg-penจากทั้ง3ยี่ห้อหลักที่มีคนนิยมใช้มากที่สุด ซึ่งหากถามว่ายี่ห้อไหนดีที่สุด อันไหนน่าใช้ที่สุด
ผมคงตอบแทนทุกคนไม่ได้เช่นกันครับ สุดแล้วแต่เราจะเลือกที่ใช่ ใช้ที่ชอบและเหมาะสมกับสไตล์การใช้งานของตัวเราเอง น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดครับ

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับg-penก็มีทั้งหมดตามที่ได้พิมพ์มา แต่ยังไม่จบแค่นี้นะครับ  เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าการใช้งานg-penนั้นจำเป็นต้องใช้ควบคู่กับ
ด้ามปากกา รวมถึงหมึกที่ใช้ในการจุ่มเขียนด้วย นี่ยังไม่รวมถึงหัวปากกาตระกูลdip penอื่นๆที่ใช้ในงานการ์ตูนนั้นยังคงมีอยู่อีกหลากหลาย
ประเภทเลยทีเดียว และแต่ละอย่างก็มีคุณสมบัติกับหน้าที่การใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความเมาะสม ซึ่งจะนำมาบอกเล่าให้อ่านกันอีกในบทความตอนหน้า
นะครับผม อย่าลืมติดตามอ่านกันนะ!!

-ฝ้าย อัชฌา กลิ่นสุคนธ์


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
ตัวอย่างg-penส่วนหนึ่งที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว ซึ่งกลายเป็นของสะสมของผมไปแล้ว 555
Copyright © 2014 Manga Course Party | Blog Created by JoJho.com